วันพุธที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา มี 3 ประเภท ดังนี้





วันพุธที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

 การสะกดคำ

การสะกดคำ หมายถึง การอ่านโดยนำพยัญชนะต้น สระ วรรณยุกต์ และตัวสะกด
มาประสมเป็นคำอ่าน ถือเป็นเครื่องมือการอ่านคำใหม่ ซึ่งต้องให้นักเรียนสังเกตรูป
คำพร้อมกับการอ่านการเขียน เมื่อสะกดคำจนจำคำอ่านได้แล้ว ต่อไปก็ไม่ต้องใช้
วิธีการสะกดคำนั้น ให้อ่านเป็นคำได้เลย จะทำให้นักเรียนอ่านจับใจความได้และอ่าน
ได้เร็ว
    การสะกดคำมีหลายวิธี ได้แก่
๑.สะกดตามรูปคำ
      เช่น กา สะกดว่า กอ – อา – กา
    คาง สะกดว่า คอ – อา – งอ – คาง
    ค้าง สะกดว่า คอ – อา – งอ – คาง – ไม้โท – ค้าง
๒.สะกดโดยสะกดแม่ ก กา ก่อน แล้วจึงสะกดมาตราตัวสะกด
       เช่น คาง สะกดว่า คอ – อา – คา – คา – งอ – คาง
     ค้าง สะกดว่า คอ – อา – คา – คา – งอ – คาง – คาง – โท
 – ค้าง
๓.คำที่มีสระอยู่หน้าพยัญชนะ ให้สะกดพยัญชนะก่อนสระเสมอ
       เช่น เก สะกดว่า กอ – เอ – เก
ไป สะกดว่า ปอ – ไอ – ไป
๔.คำที่เป็นสระลดรูปหรือสระเปลี่ยนรูป อาจสะกดได้ดังนี้
       เช่น กัน สะกดว่า กอ – อะ – นอ – กัน หรือ กอ – ไม้หันอากาศ 
– นอ – กัน
     คน สะกดว่า คอ – โอะ – นอ – คน หรือ คอ – นอ – คน
     แข็ง สะกดว่า ขอ – แอะ – งอ – แข็ง หรือ ขอ – แอะ – ไม้ไต่คู้ 
– งอ – แข็ง
         เค็ม สะกดว่า คอ – เอะ – มอ – เค็ม หรือ คอ – เอะ – ไม้ไต่คู้ 
– มอ – เค็ม
๕.คำอักษรควบ อาจสะกดได้ดังนี้
๕.๑ สะกดเรียงตัวอักษร มุ่งเพื่อการเขียนให้ถูกต้อง
 เช่น กลอง สะกดว่า กอ – ลอ – ออ – งอ – กลอง
    พราง สะกดว่า พอ – รอ – อา – งอ – พราง
    กวาง สะกดว่า กอ – วอ – อา – งอ – กวาง
๕.๒ สะกดตัวควบพร้อมกัน มุ่งเพื่อออกเสียงคำควบกล้ำให้ชัด
 เช่น กลอง สะกดว่า กลอ – ออ – งอ – กลอง
    พราง สะกดว่า พรอ – อา – งอ – พราง
    กวาง สะกดว่า กวอ – อา – งอ – กวาง
๖.คำอักษรนำ อาจสะกดได้ดังนี้
๖.๑ สะกดเรียงตัวอักษร มุ่งเพื่อการเขียนให้ถูกต้อง
 เช่น อยาก สะกดว่า ออ – ยอ – อา – กอ – อยาก
    หนา สะกดว่า หอ – นอ – อา – หนา
    สนาม สะกดว่า สอ – นอ – อา – มอ – สนาม
๖.๒ อ่านอักษรนำแล้วจึงสะกด มุ่งเพื่อออกเสียงคำให้ถูกต้อง 
     เช่น อยาก สะกดว่า หยอ – อา – กอ – อยาก
    หนา สะกดว่า หนอ – อา – หนา
    สนาม สะกดว่า สะหนอ – อา – มอ – สนาม

 ๗.คำที่ตัวสะกดไม่ตรงตามมาตราตัวสะกด คำที่มีตัวการันต์ ให้ใช้หลักสังเกตรูป
 รู้ความหมายของคำและจำคำให้ได้โดยอ่านและเขียนอยู่เสมอ เช่น เหตุ จันทร์
ข้อสังเกต
๑.การสะกดคำ อาจสอนได้หลายวิธี ครูควรเลือกวิธีใดวิธีหนึ่งที่เห็นว่าเหมาะสม 
และใช้วิธีเดียวตลอดการสอน เพื่อมิให้นักเรียนสับสน
๒.การสอนแจกลูกและสะกดคำแต่ละครั้ง ไม่ควรใช้เวลานานเกินไป นักเรียนจะ
เหนื่อย
และเบื่อหน่ายได้ ครูควรสอนควบคู่กับการสอนอ่านเป็นคำ เป็นประโยค เพื่อให้
นักเรียน
สนุกขึ้นเพราะได้เรียนคำที่มีความหมาย
๓.เมื่อนักเรียนมีพัฒนาการด้านการอ่านมากขึ้น ควรลดการอ่านแบบแจกลูกลง 
คงไว้แต่
เพียงการอ่านสะกดคำเท่านั้น เพื่อมิให้เขียนหนังสือผิด และควรเลิกอ่านสะกดคำ
เมื่อนัก
เรียนอ่านเป็นคำได้เองแล้ว















   

















วันพุธที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2558

นางสาวสนธยา ดิลกถนอมกิจ


เนื้อเพลง อยากรู้หัวใจตนเอง - วี วิโอเลต วอเทียร์ (เพลงประกอบละคร แอบรักออนไลน์)

ตอบคำถามตัวเองไม่ได้เลย ว่าต้องการสิ่งไหน 
เป็นคำถามที่ไม่มีผู้ใด ตอบแทนฉันได้เลย

* คนแบบไหนที่ฉันฝันไว้ในใจ 
คนแบบไหนที่ฉันหวังให้เป็นจุดหมาย
ไม่อยากหลงทางอย่างนี้

** ฉันไม่เคยจะรู้หัวใจตัวเอง 
แล้วเมื่อไหร่จะตอบตัวเองได้สักที
ว่าคนๆ ไหนที่ต้องการ ใช่เธอคนนี้ 
หรือว่าอาจจะเป็นเขา อยากรู้ว่าเธอคือใคร

อยากจะรักใครเป็นเพียงสักคน เป็นเธอจะได้ไหม 
อยากจะรักบางคนหมดหัวใจ จะใช่เธอเปล่า

(ซ้ำ *)

ฉันไม่เคยจะรู้หัวใจตัวเอง แล้วเมื่อไหร่จะตอบตัวเองได้สักที
ว่าคนๆ ไหนที่ต้องการ ใช่เธอคนนี้ หรือว่าอาจจะเป็นเขา
อยากรู้ว่าเธอคือใคร.. อยากรัก..รักใครสักคน 
กลัวหลงทางไปจนไกล ฉันควรทำอย่างไร

ฉันไม่เคยจะรู้หัวใจตัวเอง แล้วเมื่อไหร่จะตอบตัวเองได้สักที
ว่าคนๆ ไหนที่ต้องการ ใช่เธอคนนี้ หรือว่าอาจจะเป็นเขา
อยากรู้ว่าเธอคือใคร อยากรู้หัวใจตัวเอง